วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

บ่อน้ําร้อนรักษะวาริน ระนอง

Image result for บ่อน้ําร้อนรักษะวาริน



ประวัติบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน

เมืองระนองเป็นเมืองแห่งบ่อน้ำร้อน ถ้าจะมาให้ถึงระนองจริงๆ ก็ต้องมานอนแช่น้ำร้อน สำหรับบ่อน้ำร้อนของระนองที่ขึ้นชื่อที่สุดก็จะเป็น น้ำพุร้อนรักษะวาริน เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกัน 3 บ่อ บ่อใหญ่สุดเป็นบ่อพ่อ ถัดมาก็เป็นบ่อแม่ และ บ่อลูก ทั้ง 3 บ่อตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะรักษะวาริน อยู่ห่างกัน 60 เมตร อุณหภูมิน้ำประมาณ 65 องศา ในน้ำประกอบด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายอย่าง แต่ที่แตกต่างจากบ่อน้ำร้อนแห่งอื่นคือไม่มีสารกำมะถันเจือปนเลย

น้ำในบ่อค่อนข้างใส มีสีอมฟ้า มีสารแคลเซียมคาบอร์เนตปนอยู่ในน้ำ ซึ่งทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนน้ำเลยใส ถึงน้ำจะใสแต่ก็ไม่สามารถทานได้เพราะมีหินปูนอยู่ในน้ำ สังเกตได้จากขอบบ่อมีหินปูนสีเหลืองเกาะอยู่ปริมาณมาก

ชื่อ “รักษะวาริน” ของน้ำพุร้อนแห่งนี้ เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จย่า เมื่อครั้งเสด็จเยือนระนองในปี พ.ศ. 2510 อันเนื่องมาจากมีการนำน้ำแร่ไปบำบัด รักษาโรค
บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
บ่อน้ำร้อนรักษะวารินบ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุ ที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์ สามารถดื่มได้จากแหล่งกำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรองใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ จึงเป็นแหล่งหนึ่ง ที่นำไปผ่าน พิธีพุทธาภิเษก ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษาครบ 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภายในบริเวณบ่อน้ำร้อนมีบริการอาบน้ำแร่บำบัดรักษาสุขภาพผ่อนคลาย ความเมื่อยล้า ด้วยการบำบัดจากน้ำแร่ รวมถึงบริการแช่เท้าฟรีเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะ "รักษะวาริน" มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย
ปัจจุบันแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดของจังหวัดระนอง เนื่องจากอยู่ใกล้แหล่งชุมชน และมีศักยภาพสูง ได้รับการพัฒนา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีการจัดสร้างตกแต่งสวนหย่อมต่าง ๆ ไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน
1.บ่อพ่อ
เป็นบ่อปูนซีเมนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาบ่อน้ำร้อนทั้งสามบ่อ มีลักษณะเป็นบ่อวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางของบ่อ ขนาด 2.80 เมตร สูงจากผิวดิน 0.80 เมตร ลักษณะของน้ำร้อน น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใสมีฟองก๊าชคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่ผุดขึ้นมาจากก้นบ่อสู่ผิวน้ำ ค่อนข้างน้อย ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่ายน้ำร้อนจะไหลล้นออกนอกบ่อตลอดเวลา ทำให้บริเวณบางส่วนของปากบ่อและ ผนังบ่อน้ำ ด้านนอกมีการสะสมตัวของแร่แคลไซต์ ซึ่งเป็นแร่ที่มีขนาดผลึกละเอียดมาก แร่ชนิดนี้เป็นแร่อัลเทอร์เรชั่น ที่สำคัญชนิดหนึ่ง อุณหภูมิ ของน้ำร้อนวัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่า วัดได้ประมาณ 8 อัตราการไหลของน้ำร้อนที่บ่อพ่อวัดได้ประมาณ 3.5 ลิตร/วินาที หรือประมาณ 12.6 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง แสดงลักษณะของบ่อน้ำพุร้อน (บ่อพ่อ) รายล้อมด้วยสวนหย่อมและพุ่มไม้
2.บ่อแม่
เป็นบ่อปูนซีเมนต์เช่นเดียวกับบ่อพ่อ แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของบ่อขนาด 1.50 เมตร และสูงจากผิวดิน 0.85 เมตร ลักษณะของบ่อน้ำพุร้อน น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใส มีฟองก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ผุดขึ้นมาเป็นจังหวะ ๆ และมีปริมาณมากกว่า บ่อพ่อ ไม่มีกลิ่นกำมะถัน ไม่มีสาหร่าย อุณหภูมิของน้ำร้อน วัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่างวัดได้ประมาณ 8 มีแร่ อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อยที่ด้านในของผนังบ่อ ระดับของน้ำร้อนอยู่ต่ำจากปากบ่อลงไป 0.48 เมตร ไม่สามารถวัดอัตราการไหล ของน้ำร้อนได้
3.บ่อลูกสาว
เป็นบ่อปูนซีเมนต์เช่นเดียวกัน มีเส้นผ่าศูนย์กลางของบ่อขนาด 2.00 เมตร และสูงจาก ผิวดิน 0.90 เมตร ลักษณะ ของบ่อน้ำพุร้อน (บ่อลูกสาว) น้ำร้อนในบ่อมีลักษณะใส มีฟองก๊าชคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ผุดขึ้นมายังผิวน้ำ มากกว่า สองบ่อแรกไม่มีกลิ่น กำมะถัน ไม่มีสาหร่าย อุณหภูมิของน้ำร้อน วัดได้ 65 องศาเซลเซียส ค่าความเป็นกรดด่าง วัดได้ประมาณ 8 มีแร่อัลเทอร์เรชั่นเคลือบเล็กน้อย ที่ด้านในของผนังบ่อ เช่นเดียวกับบ่อแม่ ระดับน้ำร้อนอยู่ต่ำจากปากบ่อลงไป 0.1 เมตร ไม่สามารถวัดอัตราการไหลของน้ำร้อนได้



จากปากบ่อมองลงไปที่ก้นบ่อ จะเห็นว่าน้ำใสมาก และมีสีฟ้าอ่อนๆ





บ่อแช่เท้าน้ำพุร้อนรักษะวาริน เป็นบ่อที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาไม่มาก ก็สามารถนั่งแช่เท้า ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลังจากที่เดินทางมาหลายชั่วโมง




ส่วนบ่อแช่ตัวเป็นสัมปทานของเอกชน ของโรงแรมทินิดี โรงแรมประจำจังหวัดระนอง มีลักษณะเป็นบ่อกระเบื้อง บ่อสะอาด มีร่มบังแดด ค่าบริการคนละ 40 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นออนเซ็นราคาประหยัดไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก็แช่ออนเซ็นได้







ถัดจากบ่อน้ำร้อนจะเป็น ลานสุขภาพ ต้องถอดรองเท้า ก่อนเข้าไปด้านใน ที่บริเวณใต้ลานมีน้ำพุร้อนไหนผ่าน ความร้อนจึงแพร่กระจายไปทั่วทั้งลานปูนในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เหมาะที่จะนอนให้เลือดลมสูบฉีด การนอนครั้งนึงไม่ควรเกิน 30 นาที เพราะจะทำให้เสียเหงื่อมากเกินไป



นอกจากบ่อพ่อแล้ว ก็ยังมีบ่อแม่ และ บ่อลูกสาว ซึ่งเป็นบ่อที่มีขนาดเล็กรองลงมา ตั้งอยู่ริมถนน





หลังจากแช่น้ำร้อนเสร็จถ้าเกิดหิวขึ้นมา ไม่ต้องไปไหนไกล บริเวณรอบๆ น้ำพุร้อนรักษะวาริน มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกทานหลายร้าน




แหล่งที่มา

1 https://youtu.be/B9p1GVo5n18

2 https://www.paiduaykan.com/76_province/south/ranong/ruksavarin.html

3 https://www.emagtravel.com/archive/raksawarin-hotspring.html


ผู้จัดทำ
ด.ช. ธนบดี นิยม ป 6/2 เลขที่ 7
ด.ช. กิตติพศ ปทุมสูตร ป 6/2 เลขที่ 21

1 ความคิดเห็น: